ประวัติพี่หนุ่ม


ประวัติย่อ

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ติดตามอ่านบล็อกของผมและต๋อง  ก่อนอื่นผมก็ขอแนะนำตัวคร่าวๆ ก่อนนะครับ  เนื่องจากผมไม่ได้อยู่ในโลกไซเบอร์มาก่อน  facebook ก็ไม่มี  twitter ก็ใช้ไม่เป็น  ออนเอ็มหรือแชทก็ไม่ได้เล่น  เชยมะ  แต่ตอนนี้จะพยายามเข้ามาเรียนรู้ให้มากขึ้น  มีอะไรผิดพลาดหรือแนะนำก็ยินดีครับ  ตอนนี้ผมคงต้องขอคำแนะนำจากต๋องไปก่อน  แต่นานวันอาจจะได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ เพิ่มขึ้น  เอาล่ะเริ่มที่ไปที่มาของผมก่อนละกัน  เผื่อผมอาจจะเจอเพื่อนเก่าๆ ที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน  ผมเริ่มเข้าเรียนอนุบาลที่โรงเรียนสมปรารถนา  อยู่ซอยสุขุมวิท40  แต่ปัจจุบันไม่มีแล้วล่ะครับ  มีใครเป็นศิษย์เก่ามั๊ยครับ  เก่าจริงๆ นะ 


ชั้นประถมก็เรียนโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์  อยู่แถวคลองเตย  จริงๆ แล้วเป็นโรงเรียนหญิงล้วน  แต่เพื่อนๆ อย่าเพิ่งตกใจครับ  ผมไม่ได้เบี่ยงเบนแต่เด็กหรอกครับ  ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนหญิงล้วนแต่จริงๆ แล้วเขาให้ผู้ชายเรียนได้ถึง ป.ที่ผมเข้าเรียนได้ก็เพราะมีพี่สาวเรียนอยู่ก่อน  ก็ไปคุยกับซิสเตอร์เขาก็อนุญาติให้เข้าเรียนได้  และอย่างที่บอกเรียนอยู่จนจบป.4 ตามที่เขาอนุญาติ  ผมก็ต้องมีอันได้ย้ายโรงเรียนไปอยู่โรงเรียนศริวิกรม์  แถวเอกมัย  อันนี้เป็นโรงเรียนสห  ก็เรียนอยู่ที่นี่ตั้งแต่ป.5 จนจบ ม.แล้วไปลองสอบเข้าม.ปลายที่โรงเรียนเซนต์ดอมินิก  แถวเพชรบุรี  ไม่ใช่จังหวัดเพชรบุรีนะครับ  แต่เป็นเพชรบุรีตัดใหม่  บังเอิญติดโผได้เข้าไปเรียนตามที่หวัง  ก็เป็นโรงเรียนชายล้วน  เรียนอยู่ 3 ปี ม. 4 5 6 ก็ถึงเวลาต้อง entrance เข้ามหาลัย 

ต้วยความฟลุ๊กหรือความสามารถส่วนตัวไม่รู้  ก็เอ็นทรานซ์ได้ที่ สจธ.  หรือสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อยู่บางมด  สมัยนั้นชาวบ้านแถวนั้นเรียก  เทคโนบางมด  จำได้ว่าค่อนข้างกันดารมาก  เพราะถ้าเลยสถาบันเข้าไปก็จะเป็นสวนส้มแล้ว  แต่ปัจจุบันพัฒนาไปมากมีการตัดถนนหนทางทำอย่างดี  แถมรถติ๊ดติดในบางเวลา  และตอนนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนจากสถาบันไปเป็นมหาวิทยาลัยแล้ว  น่าจะหลายปีแล้ว  จำไม่ได้เหมือนกันว่านานแค่ไหนแล้ว  และที่บางมดนี่แหละที่ผมได้มีโอกาสรู้จักต๋อง  เนื่องจากต๋องเป็นรุ่นน้องผมสาขาฟิสิกส์เหมือนกัน  ตอนนั้นก็อาจจะไม่ได้สนิทอะไรกันมาก  จะมีเจอกันคุยกันก็ตอนทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง  ต๋องที่ผมรู้จักตอนนั้นที่จำได้คือเป็นคนค่อนข้างร่าเริง  ว่องไว  ไม่อยู่สุกไม่ใช่ว่าลักษณะซนนะ  แต่หมายถึงมีความ alert หรือ active ตลอดเวลา  ผิดกับผมที่ค่อนข้างเงียบขรึม  ไม่ค่อยชั่งพูดคุย  แต่มีงานอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะยินดีตลอด  มีกิจกรรมอะไรให้ช่วยก็เต็มที่เท่าที่สามารถ 

หลังจากครบ 4 ปีก็จบปริญญาตรี ได้วท.บ.(ฟิสิกส์)  ก็ทำงานในโรงงานอยู่พักนึง  ไม่ค่อยชอบ  ก็เลยเปลี่ยนไปลองขายรถดู  เพราะเป็นความชอบส่วนตัว  ทำอยู่พักใหญ่  ก็เตรียมตัวไปเรียนต่อ  ระหว่างเตรียมตัวสอบ  ก็อ่านหนังสืออยู่กับบ้าน  รู้สึกเบื่อๆ เลยเข้าไปช่วยงานธุรกิจครอบครัวเป็นตัวแทนจำหน่ายแอร์หลายยี่ห้อ  แล้วก็ติตตั้ง  ซ่อม  และบำรุงรักษาด้วย  ทำได้พักใหญ่ก็รับผิดชอบมากขึ้น  รู้อะไรอะไรมากขึ้น  ก็เปลี่ยนความคิดจากที่จะไปเรียนต่อนอก  ก็หันมาเรียนในไทยดีกว่า  เนื่องจากยังสามารถทำงานไปด้วย  เรียนไปด้วยได้  ก็เลยไปสมัครและสอบที่นิต้า  ได้เข้าเรียนสมใจ  เป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจ  หรือที่คนทั่วๆ ไปเรียกสั้นๆ ว่า MBA นั่นแหละ  ก็ใช้เวลาเรียนอยู่ประมาณ 2 ปี  ก็จบ  ส่วนตัวสำหรับผมเรื่องการเรียนต่อก็คงจะไม่ได้ให้ความสำคัญเนื่องจากยังไงผมก็ต้องมาดูแลธุรกิจครอบครัวแทนคุณพ่อ  ด้วยความรู้แค่นี้คงจะเพียงพอแล้ว  คงไม่ต้องถึงกับด็อกเตอร์หรอก  แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดเรียนรู้นะครับ  ก็ยังคิดว่าต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมตลอดเวลา  เนื่องจากโลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปเร็วมาก  ตอนนี้ที่มาที่ไปของผมก็คงจะพอให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันคร่าวๆ นะครับ