ทำไมจึงตัดสินใจ จากธุรกิจแอร์ มาทำธุรกิจไฮโกร

จากธุรกิจแอร์มาเป็นปุ๋ย เพราะอะไร ก็ไม่มีอะไรมากครับ เริ่มจากผมอยู่ในธุรกิจแอร์มานานมากแล้วครับ จนเริ่มรู้สึกว่าอิ่มตัว รู้สึกไม่ค่อยท้าทายแล้ว เหมือนมีชีวิตการทำงานที่เป็นรูทีนแล้ว ประกอบกับบางช่วงเวลาก็พอจะมีเวลาว่างบ้าง และอยากหาความมั่นคงให้ตัวเองมากเพิ่มขึ้น จึงลองมองหาดูอะไรใหม่ๆ ทำเพิ่ม คือหาเรื่องใส่ตัวให้มากขึ้นนั่นแหละ ก็พอดีมีคุณอาซึ่งเป็นน้องของพ่อชวนไปดูธุรกิจตัวหนึ่ง ฟังดูก็รู้ว่าเป็นธุรกิจเครือข่ายหรือขายตรงที่คนรุ่นผมหลายๆ คนแอนตี้ เพื่อนๆ ที่ติดตามอ่านอยู่บางคนก็คงรู้สึกเหมือนกัน ก็ไม่แปลกครับ หลายๆ คนรุ่นเรารับรู้หรือสัมผัสแต่ด้านลบของธุรกิจ เคยโดยยัดเยียดจากเพื่อนจากญาติให้ช่วยซื้อของบ้าง เคยโดยเพื่อนชวนทำธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลือหลังจากสมัครบ้าง แต่โดยส่วนตัวผมอยากเข้าสู่ธุรกิจนี้นะครับ ถ้าทำได้และประสบความสำเร็จจะเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างมั่นคงมาก ผมว่าหลายๆ คนที่แอนตี้ก็คงจะรับรู้มาเช่นนี้เหมือนกันและคงคิดอยากเหมือนผม แต่ผมว่ามันยากมากกกกๆๆๆ ที่จะทำให้ได้อย่างที่หวัง แต่ถ้าไม่ทำไม่ลองก็ไม่รู้นะครับ จริงๆ ก็ไปฟังมาหลายบริษัทฯ ครับ แต่ยังไม่มีที่ไหนที่ลงเต็มตัว แต่ที่นี่ค่อนข้างที่จะเข้าถึงได้หลายๆ อย่างที่สร้างความมั่นใจให้ร่วมธุรกิจด้วย เริ่มด้วย

  • บริษัทฯ ซึ่งผู้ก่อตั้งบริษัทฯ เป็นคนไทยและค่อนข้างมีชื่อเสียงและไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง คงจะไม่หนีไปไหน ไม่เหมือนบริษัทฯ ที่เจ้าของเป็นต่างชาติ รวยแล้วก็หนีกลับประเทศ ไปปล่อยคนไทยเราเท้งเต้ง แก้ปัญหากันเอาเอง แต่บริษัทฯ นี้เพิ่งก่อตั้งและเปิดตัวประมาณปลายปี2553 ซึ่งตรงนี้ก็มองได้ทั้งเป็นโอกาสและวิกฤต โอกาสก็คือสามารถเจริญเติบโตได้อีกไกล และสำหรับธุรกิจเครือข่ายผมว่าทุกคนยอมรับและรับรู้อยู่แล้วว่าถ้าได้อยู่ต้นๆ บนๆ จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมาก แต่วิกฤตก็คือมันเป็นความเสี่ยงที่ไม่รู้ว่าบริษัทฯ จะรุ่งหรือร่วง แต่สำหรับผมตอนนี้ผมมองว่ามันเป็นโอกาส ดูจากเป้าหมายของบริษัทฯ และวิสัยทัศน์ของเจ้าของ
  • ทีมงานหรือทีมที่ปรึกษา หรือที่ทั่วๆ ไปที่เขาเรียกว่าอัพไลน์ ทำงานจริงจังเข้าถึงได้ มีการทำงานเป็นทีมเวิร์ก มีการสอนวิธีการทำงาน มีระบบการทำงานดี
  • แผนการตลาดที่ผมก็ไม่ค่อยชำนาญนักกับระบบ MLM ทุกๆ ที่ก็บอกดีหมด ผมว่าดีทุกที่แหละถ้าทำสำเร็จ ยังไงก็ได้ตังค์แต่มากน้อยต่างกัน คงจะไม่มาก แต่ที่ปรึกษาว่าทำได้ง่ายกว่าที่อื่นๆ ที่เคยทำมา ก็เชื่อครับ เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด
  • แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมคือสินค้า สินค้าของบริษัทฯ ก็มีหลายตัวอยู่แต่ที่สนใจก็คือ Hygro หรือสารอาหารพืช บางคนเรียกฮอร์โมน บางคนเรียกปุ๋ยน้ำ ผมได้มีโอกาสคุยกับอาจารย์จำนงค์ที่ท่านเป็นที่ปรึกษาด้านเกษตรของสารอาหารพืชนี้ ท่านว่าอยากให้เรียกว่าสารอาหารพืชมากกว่า ผมก็ขอเรียกตามที่อาจารย์ว่าแล้วกัน เปรียบกับคนก็คงเหมือนเป็นอาหารเสริมที่จะช่วยปรับสภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงตามธรรมชาติที่ควรเป็น ไปเสริมส่วนที่ขาดให้สมบูรณ์มากขึ้น

สาเหตุที่ผมสนใจ Hygro เนื่องจากมองว่าประเทศเราเป็นเมืองเกษตร มีการทำเกษตรทั่วทั้งประเทศ มีหลายแบบหลายอย่างหลายชนิดตามความสมบูรณ์และลักษณะของแต่ละภูมิประเทศและภูมิอากาศ ทั้งทำไร่ ทำสวน ทำนา น่าจะมีโอกาสทำตลาดได้ลากหลายมาก และหลังจาที่ได้เข้าไปสัมผัสก็จริงดังคาด หลายคนคิดแบบผมแต่คงคิดก่อนนานแล้วแหละ เพราะสินค้าประเภทนี้อยู่บานเลยในตลาด ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนพืช สารเร่งดอกเร่งผล เยอะแยะไปหมดเลย แต่ก็ยังสนใจ Hygro อยู่นะครับ เนื่องจากเป็นอะไรที่ใช้ได้ง่ายมาก มีแค่ Hygro S กับ Hygro L เท่านั้นเอง โดย S เหมาะสำหรับพืชต้นเล็กตั้งแต่แบเบาะหรือเป็นต้นอ่อน ต้นกล้า ไปจนถึงเริ่มออกดอกออกผล หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ L ที่เหมาะกับต้นโตหรือต้นที่เคยออกดอกออกผลแล้ว แค่นี้จริงๆ มันก็ง่ายสำหรับผมที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านเกษตรเท่าไหร่ ผมลองศึกษาของตัวอื่นๆ แล้วค่อนข้างยุ่งยากพอควร ต้องใช้ตัวนี้ผสมตัวนั้นเติมตัวโน้นอีกหน่อยนึง ต้องใช้ตอนช่วงนี้นะ พอผ่านไปสักพักต้องใช้อีกตัวนึง อะไรประมาณนี้ ผมว่าค่อนข้างยุ่งยากพอควร ผมคงจะนำเสนอขายยาก

จุดเด่นของ Hygro อีกอย่างที่ชอบคือสามารถใช้ได้กับพืชหลายยยยยอย่างเลย ทั้งพืชใบ พืชดอก พืชผล ทั้งทำไร่ ทำสวน ทำนา ใช้ได้หมด ทำให้ผมสามารถที่จะนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับเกษตรกรทุกๆ คนได้

ตอนนี้สำหรับผมผมมองว่าผมทำธุรกิจขาย Hygro อยู่ ไม่ได้ทำธุรกิจขายตรงหรือ MLM ผมมองว่าผมขายHygro โดยมีแผนการตลาดหรือผลตอบแทนแบบ MLM มันคล้ายๆ กับธุรกิจแอร์ที่ผมทำอยู่เพียงแต่ขายแอร์อยู่ในรูปแบบของดีลเลอร์ โดยดีลเลอร์จะขายในราคาขายปลีกที่บริษัทฯ ผลิตแอร์ตั้งไว้ แต่ดีลเลอร์จะได้ส่วนลดราคาสินค้าจากบริษัทฯ ผลิตแอร์ ดังนั้นดีลเลอร์จะได้ผลประโยชน์หรือกำไรจากส่วนต่างของราคาขายปลีกกับต้นทุนดีลเลอร์ที่บริษัทฯ ผลิตแอร์ลดให้ สำหรับ Hygro เมื่อผมเป็นสมาชิกผมก็สามารถซื้อ Hygro จากบริษัทฯ ได้ในราคาสมาชิกแล้วเอาไปขายในราคาขายปลีก ผมก็ได้กำไรส่วนต่างเหมือนธุรกิจแอร์ แต่ส่วนที่อาจจะต่างก็คือสมมุติผมชวนเพี่อนมาเปิดเป็นดีลเลอร์แอร์ ซึ่งถ้าเขาขายแอร์ได้ ผมคงจะไม่ได้ส่วนกำไรหรือผลประโยชน์ใดๆ จากบริษัทฯ ผลิตแอร์เพิ่ม แต่ถ้าผมชวนเพื่อนมาขาย Hygro มาเป็นทีมงานผม ผมยังได้ผลประโยชน์หรือได้ตังค์จากบริษัทฯ ในทุกๆ ขวด Hygro ที่เพื่อนผมขายได้เพิ่มเติมอีก และถ้าเพื่อนผมเขาไปได้คนมาช่วยขาย Hygro อีก แม้ว่าผมจะไม่รู้จักเขาเลย ผมก็ยังมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากบริษัทฯ อยู่เช่นเดิม นี่แหละคือแผนตลาดแบบเครือข่ายที่ผมว่ามันน่าจะเวิร์กนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น